สลัดกุ้งทอด

ขอนำเสนอรายการอาหารเบา ๆ กันสำหรับคนไม่ทานหนักนะคะ และสำหรับคนรักษาสุขภาพ นั่นคือ สลัดกุ้งทอดค่ะ (fried shrimp salad) มาดูขั้นตอนกันค่ะ 

เครื่องปรุง และ ส่วนผสม 

* กุ้งแชบ๊วยขนาดกลาง 5-8 ตัว    

   (ล้างทำความสะอาดและปอกเปลือก)

* ผักและผลไม้สดตามต้องการ

   (แตงกวา, มะเขือเทศ, กะหล่ำปลี, แคนตาลูป, อื่นๆ)

* แป้งทอดกรอบ (ละลายน้ำเตรียมไว้)

* มายองเนส 1/2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทำน้ำสลัด)

* ครีมสลัด 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทำน้ำสลัด)

* นมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ

   (สำหรับทำน้ำสลัด, ปรับเพิ่ม/ลด ตามความหวานที่ชอบ)

* น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง รอจนน้ำมันร้อนจึงนำกุ้งไปชุบแป้งและใส่ลงไปทอดในกระทะจนเหลืองกรอบ จึงนำออกมาสะเด็ดน้ำมัน

2. ล้างและทำความสะอาดผักและผลไม้ จากนั้นจึงหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ หรือตามความหมาะสม (ถ้าเป็นกะหล่ำปลีควรซอยให้ละเอียด จะน่าทาน) จัดผักและผลไม้ใส่จานเสริฟ

3. ทำน้ำสลัดโดยผสมมายองเนส, ครีมสลัดและนมข้นหวาน คนจนส่วนผสมเข้ากันดีเป็นอันเสร็จ

4. เวลาเสริฟ นำกุ้งทอดวางบนผักและผลไม้ในจาน ราดน้ำสลัดบนกุ้งทอด เสริฟทันทีเป็นของว่างหรือกับข้าวก็ดี

(สำหรับ 2 ท่าน)

ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง

รายการนี้จำได้แม่นเลยค่ะ สมัยเมื่อครั้งยังเยาว์ คุณครูคหกรรมสอนทำอาหาร และวันนั้นท่านสอนทำก๋วยเตี๋ยวหลอด พอถึงวันหยุดเสาร์เลยอยากลองฝีมือตัวเองดูเลยไปจ่ายตลาดเองเลยตอนเด็กสมัย ม.สอง เพื่อที่จะมาทำ ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง ( rich noodle paste with bean sprout) คิดว่าทำออกมาแล้วเ็ด็ก ๆ จะชอบเหมือนกับตอนที่แม่เรียนนะคะ 

เครื่องปรุง และ ส่วนผสม 

* เส้นใหญ่ 500 กรัม

* หมูสับ 250 กรัม

* กุ้งแห้ง 1 ถ้วยตวง

* ไข่ไก่ 3 ฟอง (นำไปเจียวแล้วหั่นเป็นเส้น)

* เต้าหู้เหลืองหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 100 กรัม

* ถั่วงอก 2 ถ้วยตวง (นำไปลวกในน้ำร้อนจนสุก)

* รากผักชีหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

* กระเทียมสับละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ

* พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา

* ซิอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ

* ซิอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ

* พริกชี้ฟ้าเขียว+แดง 5 เม็ด

* น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ

* ผักชี, ขึ้นฉ่ายหั่น, กระเทียมเจียว (สำหรับโรยหน้า)

* น้ำมันพืช

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. เตรียมทำน้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวหลอดโดยนำ น้ำตาล, ซิอิ๊วดำหวาน (1 ช้อนโต๊ะ), ซิอิ๊วขาว (1 ช้อนโต๊ะ) และน้ำส้มสายชู ผสมเข้าด้วยกันและนำไปตั้งไฟอ่อนๆให้น้ำตาลละลาย จากนั้นจึงนำไปผสมกับพริกชี้ฟ้าที่โขลกจนละเอียด คนจนส่วนผสมเข้ากันดี ตักใส่ถ้วยน้ำจิ้มเตรียมไว้

2. ตั้งน้ำมันในกระทะ จากนั้นใส่กระเทียมและรากผักชีลงไปผัดจนหอม จากนั้นจึงใส่หมูสับและพริกไทยลงไปผัดจนเกือบสุก

3. ใส่เต้าหู้และกุ้งแห้ง ปรุงรสด้วยซิอิ๊วดำหวาน (1 ช้อนโต๊ะ) และซิอิ๊วขาว (1 ช้อนโต๊ะ) ผัดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี จึงปิดไฟ

4. จัดเส้นใหญ่, ถั่วงอกและไข่เจียวเส้นลงบนจาน จากนั้นจึงราดหน้าด้วยส่วนผสที่ผัดไว้ โรยหน้าด้วยผักชี, ขึ้นฉ่ายและกระเทียมเจียว เสริฟทันทีพร้อมน้ำจิ้ม

(สำหรับ 2 ท่าน)

ปีกไก่ยัดไส้

ขอเอาใจเด็ก ๆ หน่อยนะคะ เพราะเด็กที่บ้านจะชอบทานอาหารประเภทไก่เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงขอเสนอเป็น ปีกไก่ยัดไส้ ( stuffed chicked wings) โดยเฉพาะลูกชายชอบเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ มาดูหน้าตาจะน่าทานสักแค่ไหนยะคะ 

เครื่องปรุง และ ส่วนผสม 

* ปีกไก่ 8-10 ชิ้น

* หมูสับ 200 กรัม

* กุ้งขนาดกลาง 200 กรัม

   (ล้างทำความสะอาด, ปอกเปลือกและสับละเอียด)

* รากผักชี 5 ต้น

* พริกไทย 10 เม็ด

* กระเทียมสับ 3 ช้อนโต๊ะ

* ซิอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 1/2 ช้อนชา

* น้ำมันสำหรับทอด

* น้ำจิ้มไก่ (หรือซ๊อสมะเขือเทศ, ซ๊อสพริก, น้ำจิ้มบ๊วย แล้วแต่ชอบ)

* ผักสดต่างๆ สำหรับทานกับปีกไก่ทอด (แตงกวา, มะเขือเทศ, อื่นๆ)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำรากผักชี, พริกไทยและกระเทียมไปโขลกให้เข้ากัน จากนั้นจึงนำไปหมักกับหมูสับและกุ้งสับ ใส่ซิอิ๊วขาวและน้ำตาลลงไปด้วย เคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที

2. ระหว่างรอเวลาหมัก นำปีกไก่ล้างทำความสะอาดและเลาะกระดูกออก โดยหักกระดูกบริเวณข้อต่อตรงกลางระหว่างปีกกับน่อง ก่อน จากนั้นจึงใช้มีดเลาะรอบกระดูกของอีกด้านที่เราไม่ได้หัก จากนั้นจึงค่อยๆรูดเอากระดูกออกมา ต้องระวังไม่ให้หนังขาด

3. เมื่อหมักได้ที่แล้ว นำเอาส่วนผสมไปยัดใส่ในปีกไก่ที่เลาะกระดูกออกแล้ว ไม่ควรยัดส่วนผสมมากเกินไปเพราะจะทำให้หนังไก่แตกและไม่น่ารับประทาน ทำเช่นนี้จนหมด

4. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง เมื่อน้ำมันร้อนได้ที่จึงนำปีกไก่ที่ยัดไส้แล้ว ลงไปทอดจนสุกเหลืองกรอบ เสร็จแล้วนำออกมาสะเด็ดน้ำมัน

5. จัดปีกไก่ทอดใส่จานพร้อมผักสดต่างๆ เสริฟทันทีพร้อมน้ำจิ้มไก่และข้าวสวยร้อนๆ หรือเป็นของว่างกับแกล้มทานเล่นก็ดี

(สำหรับ 2 ท่าน)

แกงจืดลูกกรอก

ชื่อแปลก ๆ ดีนะคะ แกงจืดลูกกรอก ยังมีชื่อภาษาอังกฤษด้วย (thai clear soup with look rok) มาดูกันค่ะ หน้าตาจะเป็นยังงัย 

เครื่องปรุง และ ส่วนผสม 

* ไส้หมูอ่อน 200 กรัม

* กุ้งขนาดกลาง 5 - 8 ตัว

   (ล้างทำความสะอาดและปอกเปลือก)

* หมูสับ 250 กรัม

* ไข่ไก่ 5 - 7 ฟอง

* น้ำซุป 5 ถ้วยตวง (หรือน้ำเปล่า)

* กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

* รากผักชีสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

* พริกไทย 1/2 ช้อนชา

* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

* กระเทียมเจียว 1 ช้อนชา

* ต้นหอมหั่น, ใบผักชี, ขึ้นฉ่ายซอย (สำหรับโรยหน้า)

 วิธีทำทีละขั้นตอน

1. เตรียมทำลูกรอก โดยทำความสะอาดไส้หมูทั้งด้านในและด้านนอก เสร็จแล้วนำไปแช่ในน้ำส้มสายชูสักพักเพื่อดับกลิ่น เสร็จแล้วนำไปลองใส่น้ำเพื่อตรวจสอบว่ามีรอยรั่วหรือไม่ ถ้ามีก็ให้ใช้มีดตัดส่วนที่รั่วออก จากนั้นจึงมัดปลายข้างหนึ่งของไส้ให้แน่น

2. ตอกไข่ใส่ชามและคนให้เข้ากัน กรอกไข่ลงไปในไส้อ่อนที่เตรียมไว้เสร็จแล้วมัดปลายอีกข้างให้แน่น กรอกไข่จนไส้อ่อนหมด

3. ต้มน้ำด้วยไฟอ่อนๆ (ห้ามใช้ไฟแรงเด็ดขาดเพราะจะทำให้ไส้อ่อนแตก) ใส่ไส้อ่อนลงไปต้มในน้ำจนไข่สุกดี ปิดไฟ นำออกมาสะเด็ดน้ำ ทิ้งไว้ให้เย็นจึงนำไส้อ่อนมาหั่นตามขวาง เพื่อความสวยงามอาจบากผิวด้านบนและล่างให้เป็นรูปกากบาท

4. เตรียมหมักหมูสับโดยนำกระเทียม, รากผักชีและพริกไทยไปผสมกับหมูสับ ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที จึงนำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ เตรียมไว้ใส่ในแกงจืด

5. ตั้งน้ำซุปในหม้อด้วยไฟร้อนปานกลาง เมื่อน้ำเดือด ใส่หมูสับที่ปั้นเตรียมไว้ลงไปต้ม จากนั้นจึงใส่กุ้งลงไปต้มต่อจนเกือบสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา

6. ใส่ลูกรอกที่เตรียมไว้แล้วลงไปต้มต่อ คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน จึงปิดไฟ

7. ตักแกงจืดใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยต้นหอม, ผักชี, ขึ้นฉ่ายและกระเทียมเจียว เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

(สำหรับ 2 ท่าน)

ผัดเขียวหวานไก่

โดยส่วนมากเราจะนินมสั่ง แกงเขียวหวานไก่ กันนะคะ แต่คราวนี้เราลองมาทำ ผัดเขียวหวานไก่ ( stir fried chicken with green curry paste) กันดูนะคะ หน้าตาจะเป็นยังงัย

เครื่องปรุง และ ส่วนผสม 

* เนื้อไก่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม

* น้ำพริกแกงเขียวหวาน 3 ช้อนโต๊ะ

* มะเขือเปราะหั่น 5 ลูก

* มะเขือพวง 100 กรัม

* ใบมะกรูด 4 ใบ

* น้ำซุปไก่ 3 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำเปล่า)

* ใบโหระพา 50 กรัม

* พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 2 เม็ด

* กะทิ 1/2 ถ้วยตวง

   (เหลือ 1-2 ช้อนโต๊ะ ไว้ราดหน้าเวลาเสริฟ)

* น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

* น้ำมันสำหรับผัด

 วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง ใสน้ำพริกแกงเขียวหวานลงไปผัดจนหอม

2. ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดจนเกือบสุก จึงใส่มะเขือเปราะ, มะเขือพวง และใบมะกรูด (ใช้มือฉีกใบมะกรูดก่อนแล้วจึงใส่ลงไปผัด) ผัดต่อไปอีกประมาณ 1 นาที

3. ปรุงรสด้วย ซิอิ๊ว, น้ำปลาและน้ำตาล จากนั้นจึงใส่น้ำซุปไก่ (หรือน้ำเปล่าก็ได้)ลงไป เร่งไฟแรงขึ้น ใส่ใบโหระพา, พริกชี้ฟ้าแดงและกะทิลงไป ผัดอย่างรวดเร็วจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันและกะทิเริ่มแตกมัน จึงปิดไฟ

4. ตักผัดเขียวหวานใส่จาน ราดหน้าด้วยกะทิ(ส่วนที่เหลือไว้แต่งหน้า) เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

(สำหรับ 2 ท่าน)

หมูผัดเปรี้ยวหวาน

เป็นธรรมเนียมค่ะ มีเผ็ดต้องมีไม่เผ็ด เพราะถ้าทำอาหารที่บ้านต้องเผื่อเด็ก ๆ ด้วย กล้วเขาจะทานไม่ได้ เลยต้องเตรียมอาหารสักอย่าง วันนี้เลยขอนำเสนอ หมูผัดเปรี้ยวหวาน ( sweet and sour sauce fried with pork ) ค่ะ อยากให้เด็ก ๆ หัดทานผักด้วย เลยพยายามที่จะสอดแทรกผักเข้าไปให้รายการอาหาร นะคะ มาดูกันค่ะ

เครื่องปรุง และ สวนผสม

* เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 400 กรัม

* นมจืด 3 ช้อนโต๊ะ

* แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง

* ซ๊อสบ๊วย 1/2 ถ้วยตวง

* น้ำตาล 1/3 ถ้วยตวง

* หัวหอมใหญ่ 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)

* มะเขือเทศ 2 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)

* สัปปะรด 5 ชิ้น (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)

* ซ๊อสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ

* น้ำมะขามเปียก 1/2 ช้อนโตีะ

* น้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง (สำหรับทอด)

 วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำเนื้อหมูไปหมักกับนมประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นนำแป้งอเนกประสงค์ไปใส่ในจานแบน นำเนื้อหมูที่หมักแล้วไปเคล้าในแป้งสลับไปสลับมาจนแป้งเคลือบทั่วผิวหมู

2. ตั้งน้ำมันในกระทะจนร้อน จากนั้นนำหมูที่ชุบแป้งแล้วไปทอด (ใช้ไฟปานกลาง) เมื่อสุกนำหมูที่ทอดไปวางบนกระดาษซับมัน

3. นำซ๊อสบ๊วยและน้ำตาลผสมกันในกระทะอีกใบ และนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ คนเรื่อยๆจนน้ำตาลละลายดี เติมซ๊อสถั่วเหลืองและน้ำมะขามลงไป คนจนผสมกันทั่ว

4. ใส่เนื้อหมูที่ทอดแล้ว, หัวหอมใหญ่, มะเขือเทศ, สัปปะรด ลงไปในกระทะ ผัดจนเคล้ากันทั่ว จึงปิดไฟและตักใส่จานเสิรฟ เสิรฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ

(สำหรับ 2 ท่าน)

หอยลายผัดพริกเผา

วันนี้เปิดไปเห็นเมนู หอยลายผัดพริกเผา ( stir fried clams with roasted chili paste) เลยนึกอยากทานขึ้นมา เรามาเตรียมทำอาหารเที่ยงกันดีกว่านะคะ 

เครื่องปรุง และ ส่วนผสม 

* หอยลาย 450 กรัม (ล้างทำความสะอาด)

* น้ำตาล 1 ช้อนชา

* น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

* ใบโหระพา 1/2 ถ้วยตวง

* น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ

* พริก 4 เม็ด (หั่นเป็นเส้นตามแนวยาว)

* กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนชา

* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำกระทะใส่น้ำมันไปตั้งไฟปานกลาง ใส่กระเทียมและผัดจนเหลือง

2. ใส่หอยลายลงไปผัดจนสุก (เมื่อหอยลายสุก ฝาหอยจะอ้าออก) ปรุงรสด้วยน้ำปลา,น้ำตาล, และน้ำพริกเผา

3. ใส่ใบโหระพาและพริก ผัดต่อไปอีกประมาณ 10 วินาที จึงปิดไฟ ตักใส่จานและเสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

(สำหรับ 2 ท่าน)

ก๋วยเตี๋ยวคั๋วไก่

ตอนนี้กำลังคิด ๆ ว่า มื้อเที่ยงนี้จะทำอะไรให้เด็ก ๆ ทานที่บ้าน นั่งคิด ๆ อยากทานอะไรประเภทเส้น เลยมาหยุดตรงที่ ก๋วยเตี๋ยวคั๋วไก่ ( chicken noodle) เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวค่ะ

เครื่องปรุง และ ส่วนผสม 

1. ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 1/2 กิโลกรัม
2. เนื้อไก่หั่น 1/2 ถ้วยตวง
3. แครอท (จักเป็นเส้นยาวๆ) 1/4 ถ้วยตวง
4. กะหล่ำ (หั่นเป็นชิ้นพอคำ) 1 ถ้วย
5. เห็ดฟางผ่าครึ่งดอก 1/2 ถ้วย
6. ข้าวโพดอ่อน 5–6 ฝัก
7. ไข่ไก่ 2 ฟอง
8. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำมันพืช 1/2 ถ้วยตวง
10. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
11. พริกดองน้ำส้มเล็กเน้อย
12. ผักกาดหอม 1 ต้น

วิธีทำ

1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอร้อน ใส่กระเทียมสับลงผัดพอเหลืง
2. ใส่เนื้อไก่ แครอท ข้าวโพดอ่อน ดอกกะหล่ำ พอเนื้อไก่สุกใส่เส้นก๋วยเตี๋ยว ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ซอสปรุงรส ต่อยไข่ ใส่เคล้ากับเส้น ผัดให้เข้ากัน
3. พอไข่สุก โรยพริกไทยป่น ตักใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอม รับประทานกับน้ำส้มพริกดอง ปรุงรสเพิ่มเติมตามใจชอบ

แกงจืดไข่น้ำ

เรามาทานอาหารรสจืด ๆ ดูบ้างนะคะ สำหรับคนมีปัญหากับโรคกระเพาะ ทานเผ็ดไม่ได้โดยเฉพาะตัวผู้นำเสนอเอง อิอิ และนี่ก็ทำกินอยู่บ่อยเลยที่เดียว ทั้งเผื่อตัวเอง และ ลูก ๆ ด้วย เพราะ เด็ก ๆ เขาไม่ทานเผ็ดกันอยู่แล้ว ชื่อก็น่าทำง่าย ๆ นะคะ แกงจืดไข่น้ำ (fried egg in clear soup) มาลงมือทำกันค่ะ 

เครื่องปรุง และ ส่วนผสม 

* หมูสับ 200 กรัม

* วุ้นเส้น 100 กรัม (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

* ไข่ไก่ 6 ฟอง

* น้ำมันพืช ¼ ถ้วยตวง

* กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ (ไว้โรยหน้า)

* หัวหอมใหญ่ ½ ถ้วยตวง

* น้ำซุปไก่ 6 ถ้วยตวง (หรือน้ำเปล่า)

* น้ำปลา 1/3 ถ้วยตวง

* พริกไทย 1/4 ช้อนชา

* กะหล่ำปลีหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม

* ต้นหอม 2 ต้น (หั่นยาวประมาณ 1 นิ้ว)

 วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ตั้งไฟในกระทะ ใส่น้ำมัน รอจนกระทั่งน้ำมันร้อน จึงใส่ไข่ลงไปเจียวให้เหลือง (หนึ่งข้างใช้เวลาทอด ประมาณ 2 นาที) เมื่อสุกแล้วนำออกมาหั่นเป็นชิ้นๆ เตรียมไว้ใช้ในขั้นตอนต่อไป

2. นำน้ำซุป (หรือน้ำเปล่า) ใส่หม้อและนำไปตั้งไฟ รอจนกระทั่งเดือด ใส่หมูสับ คนจนกระทั่งหมูสุก

3. ใส่หอมใหญ่, กะหล่ำปลี, ต้นหอม ต้มสักพักจึงใส่ไข่เจียวที่หั่นเป็นชิ้นๆไว้แล้ว และเครื่องปรุงที่เหลือทั้งหมด

4. ต้มจนเดือดอีกครั้งจึงตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว และเสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

(สำหรับ 2 ท่าน)

เต้าเจี้ยวหลน

วันนี้ขอนำเสนออาหารแบบน้ำพริกหน่อยนะคะ อยากทานอะไรที่มีผักค่ะ รายการนี้ทำอยู่บ่อย ๆ ให้ ตา กับ ยาย ที่บ้านค่ะ เพราะอยากให้ท่านทานผักเยอะ ๆ นั้นคือ เต้าเจี้ยวหลน ค่ะ หรือ บางคนเรียก หลนเต้าเจี้ยว ชื่อภาษาอังกฤษ (soya bean dipping sauce) แ่ละโดยส่วนตัวก็ชอบเหมือนกันนะคะ



เครื่องปรุง และ ส่วนผสม 

* หมูสับ 70 กรัม

* กะทิ 2 ถ้วยตวง

* เต้าเจี้ยว 5 ช้อนโต๊ะ

* ตะไคร้ซอย 2 ต้น

* หอมแดงซอย 3 ลูก

* พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด

* น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ

* ผักสดต่างๆ สำหรับทานกับเต้าเจี้ยวหลน

   (กะหล่ำปลี, ข้าวโพดอ่อน, ถั่วฝักยาว, แตงกวา, อื่นๆ)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำกะทิไปต้มในหม้อด้วยไฟปานกลาง จากนั้นใส่เต้าเจี้ยวลงไป คนให้เข้ากัน

2. รอจนส่วนผสมเดือดอีกครั้งจึงใส่หมูสับ, ตะไคร้, หอมแดงและพริกลงไป ต้มต่อไปอีก 3 นาที

3. ปรุงรสด้วยน้ำตาล คนจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี จึงปิดไฟ

4. ตักเต้าเจี้ยวหลนใส่ถ้วย เสริฟพร้อมผักสด (หรือผักต้มแล้วแต่ชอบ) และข้าวสวยร้อนๆ

(สำหรับ 2 ท่าน)

ปลาหมึกผัดน้ำพริกเผา

กลัับมาแล้วค่ะ หายไป 2 วัน อิอิ ตะลอนบุญค่ะ มาวันนี้แต่เช้า นึกอยากทานอาหารทะเล ขอนำเสนอ ปลาหมึกผัดน้ำพริกเผา ค่ะ (stir-fried squid with roasted chili paste) ของโปรดเลยละคะ นี่ขนาดทราบนะคะว่าคอเรสเตอรอลสูง แต่ก็พลาดไม่ได้เลยล่ะคะ มาดูกันค่ะ 

เครื่องปรุง และ ส่วนผสม

* ปลาหมึก 350 กรัม (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)

* ต้นหอม 50 กรัม (หั่นยาวประมาณครึ่งนิ้ว)

* พริกชี้ฟ้าแดงหรือเหลือง 2 เม็ด (หั่นตามยาว)

* หอมใหญ่หั่น 1/2 ลูก

* น้ำพริกเผา 1.5 ช้อนชา

* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนชา

* น้ำตาล 1/2 ช้อนชา

* น้ำมันพืชสำหรับทำอาหาร

* ผักชี (สำหรับแต่งหน้าอาหาร)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง ใส่ปลาหมึกและหอมใหญ่ลงไปผัดพร้อมกันจนเกือบสุก (ระวังอย่าผัดจนปลาหมึกสุกเกินไป เนื้อปลาหมึกจะมีรสชาติดีที่สุดเมื่อใกล้สุก ถ้าสุกเกินไปเนื้อจะแข็งกระด้าง ไม่อร่อย)

2. เติม น้ำพริกเผา, ซิอิ๊วขาว, ต้นหอม, พริก และน้ำตาล ผัดต่อไปอีกประมาณ 2 นาที จนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี จึงปิดไฟ

3. ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

(สำหรับ 2 ท่าน)

ข้าวหน้าไก่

วันนี้ก่อนไปนอนขอฝากรายการนี้อีกอย่างนะคะ เป็นขอโปรดลูกชายค่ะ เลยอยากนำเสนอเผื่อจะมีใคร ๆ ชอบเหมือนกัน สามารถนำไปทำให้เด็ก ๆ ทานกันในวันหยุดได้นะคะ ข้าวหน้าไก่ ชื่อภาษาอังกฤาเขา เรียกว่า (rice with chicken in brown sauce) มาดูวิธีการทำกันค่ะ 

เครื่องปรุง และ ส่วนผสม

* สันในไก่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 800 กรัม * ซี่โครงไก่ 3 ตัว * กระเทียมสับ 3/4 ถ้วยตวง * รากผักชี 5 ราก * น้ำมันงา 4 ช้อนโต๊ะ * น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ * เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ * ซิอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ * ซ๊อสปรุงรส 8 ช้อนโต๊ะ * เหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ * พริกไทยป่น 3 ช้อนโต๊ะ * แป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วยตวง (ละลายกับน้ำ) * ผักต้ม   (แครอท, ข้าวโพดอ่อน, อื่นๆ สำหรับทานกับข้าวหน้าไก่) * พริกดองน้ำส้ม (เสริฟทานพร้อมกับข้าวหน้าไก่) * ผักชี (สำหรับแต่งหน้าอาหาร) * น้ำมันพืช

 วิธีทำทีละขั้นตอน

1. หมักไก่โดยใส่น้ำตาลทราย (2 ช้อนโต๊ะ), พริกไทยป่น (2 ช้อนโต๊ะ), ใส่กระเทียมสับ (1/4 ถ้วยตวง), ซ๊อสปรุงรส (4 ช้อนโต๊ะ), ซิอิ๊วขาว (4 ช้อนโต๊ะ) และ่น้ำมันงา (4 ช้อนโต๊ะ) เคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ อย่างน้อย 30 นาที

2. ระหว่างรอหมักไก่ เตรียมทำน้ำซุป : ตั้งน้ำสะอาดในหม้อด้วยไฟร้อนปานกลาง ใส่ซี่โครงไก่, รากผักชี, พริกไทย (1 ช้อนโต๊ะ)และ เกลือ ต้มด้วยไฟอ่อนประมาณ 1 ชั่วโมง

3. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง ใส่กระเทียม (1/2 ถ้วยตวง) ลงไปเจียวจนเหลืองหอม จากนั้นใส่ไก่ลงไปผัดจนเกือบสุก

4. ปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย (2 ช้อนโต๊ะ), ซ๊อสปรุงรส (4 ช้อนโต๊ะ) และเหล้าจีน ผัดให้เข้ากัน แล้วจึงนำน้ำซุปที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในกระทะ ผัดให้ส่วนผสมเข้ากันกับน้ำซุป เสร็จแล้วย้ายส่วนผสมทั้งหมดไปในหม้อขนาดใหญ่

5. ตั้งหม้อบนไฟอ่อนๆ รอจนเดือดจึงใส่น้ำแป้งข้าวโพดลงไป ค่อยๆเติม และคนต่อเนื่องเพื่อไม่ให้น้ำแป้งจับตัวเป็นก้อน

6. ตักราดบนข้าวสวยร้อนๆพร้อมผัก หรือจะเสริฟแยกโดยใส่ถ้วยต่างหากก็ได้ ก่อนเสริฟโรยหน้าด้วยผักชี และเสริฟข้าวหน้าไก่พร้อมน้ำส้มพริกดอง

(สำหรับ 4-6 ท่าน)

ผัดวุ้นเส้น

มีเผ็ดแล้วขอจืดสักอันนะคะ ชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า(stir fried mung bean noodle) รายการนี้สำหรับคุณตาคุณยายและคุณลูกที่ไม่ทานเผ็ดกัน เหมาะอย่างยิ่ง และโดยส่วนตัวเองก็ชอบทำใส่บาตรตอนเช้า ๆ ด้วยค่ะ มาดูกันค่ะ ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง 

เครื่องปรุง และ ส่วนผสม

* วุ้นเส้น 150 กรัม * เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 200 กรัม * ไข่ไก่ 3 ฟอง * หอมใหญ่หั่นเป็นชิ้นๆ 1 ลูก * มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นๆ 3 ลูก * กระเทียมสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ * ต้นหอมหั่น 3 ต้น * กะหล่ำปลีหั่น 100 กรัม * น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ * น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ * น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ * พริกไทย 1/2 ช้อนชา * ผักชีสำหรับแต่งหน้าอาหาร * น้ำมันพืชสำหรับผัด

 วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำวุ้นเส้นไปแช่น้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงนำมาสะเด็ดน้ำให้แห้ง พักไว้

2. ตั้งกระทะบนไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำมันพืช รอจนร้อนจึงใส่กระเทียมลงไปผัดจนเหลืองหอม

3. ใส่หมูและหอมใหญ่ลงไปผัดจนหมูเกือบสุก จึงใส่ไข่ไก่ลงไป ใช้ตะหลิวเขี่ยไข่แดงให้แตก ทิ้งไว้สักพัก พอไข่เริ่มสุกใส่วุ้นเส้น, มะเขือเทศ, กะหล่ำปลีและต้นหอม ลงไปผัดต่อ

4. ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย, น้ำปลา, น้ำตาลและพริกไทย ผัดจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จึงปิดไฟ

5. ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

(สำหรับ 2 ท่าน)

ต้มยำกุ้ง

หายไปหลายวันติดเทศกาลออกพรรษา เลยขอเวลาไปทำบุญ กลับมารู้สึกอยากกินอะไรร้อน ๆ จี๊ดจ๊าดเลยขอเสนอ ต้มยำกุ้ง (spicy soup with prawn and lemon grass) ทำไมชื่อภาษาอังกฤษมันยาวอย่างนี้นะ แต่ถ้าเราพูดว่า Tum Yam Khug บางทีเขาก็เข้าใจ ก็แหม อาหารไทยออกจะดังขนาดนั้น ไม่รู้จักก็ไม่ได้แล้วนะคะ งั้นเรามาดูกันว่าต้องทำอย่างไรบ้าง 

เครื่องปรุงและส่วนผสม

* กุ้งขนาดกลาง 12 ตัว (ปอกเปลือก, ทำความสะอาด)

* เห็ดฟาง 10 อัน

* ตะไคร้ 1 กำ

   (ทุบให้แหลกและหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 2")

* ใบมะกรูด 3 ใบ

* เกลือ 1 ช้อนชา

* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

* พริกขี้หนู 6 เม็ด (ทุบพอให้แหลก)

* น้ำสะอาด 4 ถ้วยตวง

* ผักชี 1/2 ถ้วยตวง (หั่นหยาบ)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ปอกเปลือกกุ้งออก เหลือหางไว้ (เพื่อความสวยงามเมื่อปรุงเสร็จ) จากนั้นหั่นด้านหลังกุ้งเพื่อเอาเส้นเลือดสีดำออก เสร็จแล้วนำเห็ดฟางไปล้างให้สะอาด หั่นเป็น 4 ส่วนและนำไปผึ่งให้แห้ง

2. นำน้ำเปล่าไปต้มในหม้อ จากนั้นใส่ตะไคร้, ใบมะกรูด และกุ้ง เมื่อสีกุ้งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู (เริ่มสุก) ใส่เห็ดที่หั่นไว้แล้วและเกลือ

3. หลังจากน้ำเดือดแล้วปิดไฟ และ้นำหม้อออกมาจากเตา ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมะนาว และพริกขี้หนู เมื่อปรุงรสเสร็จตักเสิรฟในถ้วย ตกแต่งด้วยผักชีและเสิรฟทันที พร้อมด้วยข้าวสวยร้อนๆ

(สำหรับ 2 ท่าน)

ผัดกะเพราไก่

เราลองมาดูรายการอาหารที่มีรสจัดหน่อยนะคะ ทานจืดกันมาแต่ต้นเลย เป็นผัดกะเพราไก่ (Fried Chicken with Basil Leaves) รายการนี้เป็นรายการอาหารที่มีชื่อของเลยก็ว่าได้นะคะ ฝรั่งชอบค่ะ แต่ทานเผ็ดไม่ค่อยได้ เลยบวกเอาชื่อภาษาอังกฤษมาด้วยด้วย มาดูกันค่ะ ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง และวิธีการทำอย่างไร

 

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* เนื้อไก่ 450 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีำคำ) * กระเทียม 5 กลีบ (สับให้ละเอียด) * หัวหอมใหญ่ 1/2 ถ้วยตวง (หั่นเป็นชิ้นบางๆ) * น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ * ซิอิ๊วดำ 2 ช้อนชา * น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ * ใบกะเพรา 1 ถ้วยตวง * พริก 7 เม็ด (ทุบพอแหลกและสับหยาบๆ) * พริกไทยป่น หมายเหตุ : สามารถใส่ผักอื่นๆลงไปผัดร่วมด้วยเช่น แครอท, ถั่วฝัก, ข้าวโพดอ่อน เป็นต้น

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ตั้งน้ำมันในกระทะจนร้อน จากนั้นใส่กระเทียมและผัด 5-10 วินาที ใส่หอมใหญ่ และผัดต่อไปอีกสักพักจนกลิ่นเริ่มหอม ใส่เนื้อไก่ลงต่อและผัดจนเนื้อไก่สุกทั่ว 2. ใส่พริกและซิอิ๊วดำลงไปในกระทะ ผัดต่อไปอีก 15-20 วินาที 3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และใส่ใบกะเพราลงไปในกระทะ ปิดไฟจากนั้นผัดให้กะเพราผสมกับเนื้อไก่่่จนทั่ว ตักใส่จาน ก่อนเสิรฟโรยหน้าด้วยพริกไทย เสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ในบางครั้งไข่เจียวหรือไข่ดาวมักจะเสิรฟร่วมด้วย (สำหรับ 2 ท่าน)

ราดหน้ารวมมิตรเจ

มารายการต่อไปนะคะ ขออนุญาตินำรายการอาหารอีกรายหนึ่งมานำเสนอนะคะ เพราะเป็นของโปรดอีก อย่าง แล้วโดยส่วนตัวด้วยตอนนี้เริ่มหันมาทานเจ (ตามเวลาและโอากาสแต่ก็พยายามทานให้บ่อยวันที่สุดค่ะ) ลองมาดูกันนะคะ ว่าทำกันอย่างไร


ส่วนผสม

1.น้ำมันพืช	3  ช้อนโต๊ะ
2.เส้นหมี่แช่น้ำ หั่นยาวพอประมาณ	2  ถ้วยตวง
3.ซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้	5  ช้อนโต๊ะ
4.น้ำมันพืชสำหรับผัด	3  ช้อนโต๊ะ
5.ฟองเต้าหู้แช่น้ำ หั่นชิ้นพอคำ	1/4  ถ้วยตวง
6.เต้าหู้แข็ง หั่นชิ้นพอคำ	1/4  ถ้วยตวง
7.เห็ดหอมแช่น้ำ หั่นเป็นเส้นๆ	1/4  ถ้วยตวง
8.ดอกข้าวโพดอ่อน ผ่าซีก	5  ดอก
9.ถั่วลันเตา	10  ฝัก
10.กะหล่ำปลี หั่นชิ้นพอคำ	1/4  ถ้วยตวง
11.แครอท หั่นชิ้นพอคำ	1/4  ถ้วยตวง
12.ดอกกะหล่ำ หั่นชิ้นพอคำ	1/4  ถ้วยตวง
13.แป้งข้าวโพด	2  ช้อนโต๊ะ
14.น้ำเปล่า	1/4  ถ้วยตวง
15.น้ำตาลปึก	1  ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. สูตรอาหารราดหน้ารวมมิตรเจนั้น เริ่มจากการผัดเส้นหมี่กับน้ำมันพืช ปรุงรสด้วยซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้ 2 ช้อนโต๊ะ ผัดให้เข้ากัน ตักขึ้นใส่จานพักไว้
2. ขั้นตอนต่อมาก็ใส่น้ำมันพืชลงกระทะ ตามด้วยเต้าหู้ เห็ดหอม ฟองเต้าหู้ ผัดจนสุก แล้วใส่ดอกข้าวโพด แครอท ถั่วลันเตา ดอกกะหล่ำ และกะหล่ำปลี ผัดจนสุก
3. ปรุงรสด้วย ซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้ ที่เหลืออีก 3 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำตาลปึก ชิมรสตามชอบ แล้วผสมแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่า ใส่ลงไปในส่วนผสมคนให้เข้ากันจนแป้งสุก ยกลงราดบนเส้นหมี่ที่เตรียมไว้ แค่นี้คุณก็จะได้สูตรอาหารเมนูเจรสเลิศไปรับประทานกันแล้ว

ไข่ตุ๋นปูอัด

วันนี้ขอนำเสนออาหารง่าย ๆ นะคะ นั้นคืำอ ไข่ตุ๋นปูอัดค่ะ ที่นำเอารายการนี้มานำเสนอก็เพราะว่า วันนี้ลูกชายเดินข้าวกับไข่ตุ๋น เลยถือโอกาสนี้นำเสนอเมนูนี้ล่ะกันนะคะ เป็นเมนูสำหรับเด้ก ทำง่ายและอร่อยล้ำเลยล่ะค่่ะ ลองทำทานกันดูนะคะ เมนูนี้ชื่อว่า
ไข่ตุ๋นปูอัด

	เครื่องปรุง 1. ไข่ไก่(เบอร์ 1) 3 ฟอง 2. น้ำเปล่า 3. ปูอัด 3-4 แท่ง(หั่นแทยง) 4. แครอทหั่นลูกเต๋าเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ หั่นแท่งเล็กน้อย 5. ต้นหอมซอย เล็กน้อย 6. ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 7. ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา 8. น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
	1. ใส่น้ำในลังถึง จากนั้นนำลังถึงตั้งไฟ ระหว่างรอน้ำเดือด ตอกไข่ใส่ชาม ใช้ซ่อมตีไข่ให้ไข่แดงและไข่ขาวเข้ากัน ปรุงรสด้วย ซิอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และน้ำปลา จากนั้นค่อยๆ เติมน้ำเปล่าลงไป คนให้เข้ากัน ใส่ปูอัดและแครอท ที่หั่นเตรียมไว้ส่วนหนึ่งลงในชาม แบ่งไว้ส่วนหนึ่ง เอาไว้แต่งหน้า จากภาพจะเห็นแครอทลอยอยู่บนไข่ ส่วนปูอัดจะจมอยู่ด้านล่างค่ะ
	2. พอน้ำเดือด นำชามไข่ที่เตรียมไว้ ใส่ในลังถึงปิดฝา ใช้ไฟปานกลาง นึ่งประมาณ 20 นาที เมื่อไข่สุกจะได้ไข่ตุ๋นหน้าตาประมาณในภาพ ถึงขั้นตอนนี้อาจจะยังไม่ต้องให้ไข่สุก ทั้ง 100 % ก็ได้ค่ะ เพราะเดี๋ยวต้องแต่งหน้าแล้วนึ่งต่ออีก เอาเป็นว่าให้เกือบสุกก็แล้วกัน เวลาที่ใช้ในการนึ่งจะไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับไข่ว่าเป็นไข่ที่ออกจากตู้เย็นหรือเปล่า และไฟที่ใช้บางทีอาจจะไม่เท่ากัน แต่ที่สำคัญ เวลาใส่ชามไข่ในลังถึง ต้องรอให้น้ำเดือดก่อนค่ะ
	3. แต่งหน้าไข่ตุ๋นด้วย ปูอัด โรยแครอทแบบแท่ง ต้นหอมหั่นฝอย จากนั้นปิดฝาลังถึง นึ่งต่อประมาณ 2-3 นาที ให้ปูอัดและผักสุก ยกเสิร์พ ทานร้อนๆ อร่อยมากขอบอก วิธีทดสอบว่าไข่สุกแล้วหรือยัง ให้ใช้ช้อนหรือซ่อมแทงลงไปที่เนื้อไข่ จิ้มลงไปเบาๆ ก็พอนะคะ ไม่ใช่กวนไข่ ถ้าไข่สุกเนื้อไข่จะเกาะกันดี หากเป็นน้ำสีไข่ดิบไหลขึ้นมา ก็แสดงว่าอาจจะยังสุกไม่ทั่วดี ปิดฝานึ่งต่ออีกหน่อยค่ะ

 

อาหารไทย

ทักทายค่ะ 

ยินดีต้อนรับสู่บล๊อคสำหรับคนชอบทำอาหารนะคะ ด้วยความที่เป็นคนชอบทำอาหาร อาจจะทานได้บ้าง ไม่ได้บ้าง รสชาติดีบ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็อยากจะทำ อยากจะเรียนรู้ จึงอยากทำบล๊อคสักบล๊อคเป็นของตัวเองเพื่อจะได้รวบรวมเอาสูตรการทำอาหารไทยต่าง ๆ มาไว้ที่นี้ และรวมไปถึงรวมบทความดีๆน่ารู้ เกี่ยวกับอาหารการกิน อ่านสนุก และได้สาระมากมาย (รู้ไว้ใช่ว่า) หลากหลาย เคล็ดลับ ที่จะช่วยให้ งานครัวเป็นงานสนุก อีกทั้งยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า ในยุคเศรษฐกิจ ตกสะเก็ดเช่นนี้ และรวมถึง สูตรอาหาร พร้อมภาพประกอบวิธีทำ แต่ละขั้นตอน งานนี้พลาดไม่ได้แล้ว 

..............................................................................................................................

เรามาเริ่ม เมนูแรกกันเลยดีกว่านะคะ งั้นขิงขอส่งท้ายเทศกาลเจที่ผ่านพ้นไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็แล้วกันนะคะ เป็นเมนูโปรดของขิงเองค่ะ  และนั้นก็คือ 

ต้มกะหล่ำเจ
ขอส่งท้ายเทศกาลกินเจ เป็นเมนูอาหารเจรสเลิศ
ต้มกะหล่ำเจ แม้ว่าหน้าตาจะแสนธรรมดา
แต่เป็นที่ยอมรับกันว่า
รสชาติอร่อยเลิศล้ำ เกินพรรณนา
สูตรเด็ดจากเจ้พิม (คุณแม่ของเว็บคุ้กกี้เอง)ต้องขอขอบคุณด้วยนะคะ
เมนูนี้ ทำไม่ยาก แต่จะทำให้อร่อยต้องมีเทคนิคกันเล็กน้อย
ก็ ลองเอาไปทำทานกันดูนะจ๊ะ

 

	เครื่องปรุง 1. กะหล่ำปลี 4 หัว 2. เห็ดหอม 10 ดอก 3. ฟองเต้าหู้ทอด 1 ถ้วยตวง 4. ซิอิ๊วขาว 1/2 ถ้วยตวง 5. ซอสปรุงรส 2 ช้อนตวง 6. พริกไทยเม็ด 20 เม็ด 7. น้ำมันพืช 8. น้ำเปล่า
	1. ผ่ากะหล่ำปลี ออกเป็นสี่ถึงหกซีก (ขึ้นอยู่ว่าหัวเล็กหรือใหญ่) นำไปล้างน้ำให้สะอาด และผึ่งให้แห้ง จากนั้นเทน้ำมันพืชใส่กะทะ รอจนน้ำมันร้อน ใส่กะหล่ำปลีลงทอดให้เหลือง และดูว่าผักนุ่มลง (เวลาทอดให้ใช้ไฟปานกลาง คอยกลับข้างกะหล่ำด้วย น้ำมันที่ใช้ต้องมากพอท่วมผัก ไม่เช่นนั้นผักจะไหม้) จากนั้นตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน (ต้องสะเด็ดน้ำมันนานๆ ไม่อย่างนั้นเวลาต้มออกมา จะมันมาก) ถึงตอนนี้กลิ่นกะหล่ำทอดก็หอมไปทั่วบ้านแล้วล่ะ
	2. เรียงกะหล่ำใส่หม้อ โรยด้วยพริกไทยเม็ด บุบพอแตก ใส่น้ำเปล่าพอท่วมผัก ใส่ฟองเต้าหู้ทอด นำขึ้นตั้งไฟ ส่วนเห็ดหอมแห้ง ให้นำไปแช่น้ำจนนุ่ม (ถ้าดอกแข็งมากให้ใช้น้ำอุ่น) จากนั้นนำมาหั่น เป็นชิ้นพอคำ (อย่าลืมตัดแกนออก เพราะส่วนมากจะแข็ง เดี๋ยวจะทานไม่อร่อย) นำกะทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ใส่เห็ดหอมที่เตรียมไว้ลงผัด ใช้ไฟอ่อน ผัดจนเห็ดหอม มีกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยซิอิ๊วขาวเล็กน้อย ตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน
	3. ปรุงรสด้วย ซิอิ๊วขาว และซอสปรุงรส ตั้งไฟจน เดือนเข้ากันดี ชิมรสและปรุงรสเพิ่มตามความชอบ (ถ้าจะประหยัด ชิมแล้วรู้สึกว่าไม่เค็ม ปรุงรสเพิ่มด้วย เกลือ แต่ถ้าจะให้อร่อยเลิศแบบทุ่มทุนสร้างแนะนำว่าให้ปรุงรสด้วย ซิอิ๊วขาว ไม่ใช้เกลือค่ะ แบบว่าอร่อยมากๆ ขอบอก )